Biennale Arte 2017 – Participating countries

เสียดายที่เวลามีไม่มากนัก ไม่งั้นคงจะได้มีโอกาสเดินดูนิทรรศการในตัวเมืองด้วย เลยต้องจบงานนี้ไว้เพียงแค่ตอนที่ 3 ซึ่งจะเป็น Pavilion ประเทศต่างๆที่เข้าร่วม หลักๆแล้วจะมี 30 ประเทศที่มี permanent pavilion เป็นของประเทศตัวเองอยู่ใน Giardini (ส่วนเดียวกันกับ Central Pavillion ในตอนที่ 1 ) ส่วนประเทศอื่นๆนั้นก็จะจัดอยู่ตามส่วนต่างๆกระจายกันไปในส่วน Arsenale

Russia Pavilion

มาในชื่องานว่า Theatrum Orbis แปลว่า Theater of the world นำชื่อมาจาก การตีพิมพ์รวมแผนที่โลก (Atlas)ในปี 1570 โดย Flemish cartographer Abraham Ortelius ซึ่งอยู่ในยุคแห่งการสำรวจ และการค้นพบ Age of Discovery สมัยแรกที่มีการรวมความรู้ และประสบการณ์ในสาขาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม

เริ่มนิทรรศการด้วยผลงานประติมากรรมสีขาวล้วน หลากหลายรูปแบบ โดยศิลปิน Grisha Bruskin ในหัวข้อ Scene Change ศิลปินได้เล่นกับช่วงเวลาสมัยโบราณ และสมัยใหม่ ผสมผสานกันลงในหุ่นต่างๆที่เห็นกว่า 200 ชิ้น เช่น เหยี่ยวสองหัว ตุ๊กตาประหลาด กองทัพทหาร มนุษย์หุ่นยนต์ โดยศิลปินได้ตั้งใจสร้างผลงานเพื่อหลอมทุกยุคสมัยรวมกันไว้ให้เป็นอมตะ
Participated countries-12.jpg
The two-headed bird by Grisha Bruskin.

Participated countries-14.jpg

Participated countries-16.jpg
Scene change by Grisha Bruskin.
Participated countries-18.jpg
Up on the ceiling are soldiers with binoculars, drones and archaic idols
Participated countries-19.jpg
On ground, the army of dolls, dummies, hybrids and androids.

 

เมื่อเดินลงมาชั้นล่างมาเจอผลงานโดยศิลปิน Recycle Group ในชื่อ Blocked Content ได้สร้าง Absurdist image เล่นกับมาตรฐาน จริยธรรม และความเป็นจริงของสื่อสังคมออนไลน์ แสดงความเป็นอมตะในสังคมร่วมสมัย ที่เปรียบ “นักบุญ” กับชีวิตนิรันดร์ และ “คนบาป” ในที่นี้หมายถึง spammers, visrus retailers หรือ fake celebrities จะถูกลงโทษ แรงบันดาลใจมาจากฉากในนรก Dante’s 9th Circle of Hell  ร่างแต่ละร่างเปรียบเหมือนโปรไฟล์ขอ ที่ถูกบล็อกอยู่ภายใต้สูญญากาศ ไม่สามารถกลับมาได้เหมือนเดิม เราสามารถมองเห็นได้เพียงผ่าน application ที่ผู้เข้าชมดาวโหลดลงบน smartphone

Participated countries-23.jpg
Blocked Content by Recycle Group, Russia Pavilion

Participated countries-24.jpg

Participated countries-25.jpg
Blocked Content fully visible through a virtual reality app.

 

Japan Pavilion

ศิลปิน Takahiro Iwasaki โดยการ curated จาก Meruro Washida ได้นำเสนอนิทรรศการในชื่อ Turned Upside Down, It’s a Forest

ศิลปินได้นำเสนองานศิลปะด้วยการเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลง ที่เกิดจากสิ่งเล็กๆ ที่แทรกเข้ามา ก่อเกิดเป็นผลอันรุนแรง และยาวนาน เช่นเดียวกับเหตุการณ์ทิ้งระเบิดปรมณูที่ฮิโรชิม่า แสดงให้เห็นถึงพลังของอะตอมเล็กๆ ที่รุนแรง และสามารถทำลายได้ทั้งเมือง

Participated countries-28.jpg

Participated countries-29.jpg
A shrine in the coastal region of japan and its reflect (ship of theseus)
Participated countries-31.jpg
Steel towers made from the threads pulled out of clothes
Participated countries-34.jpg
Construction cranes from bookmark strings attached to books

 

South Korea Pavilion

เกาหลีใต้กับชื่อหัวข้อ Counterbalance : The Stone and the Mountain ของสองศิลปิน Cody Choi และ Lee Wan

Pavilion ถูกออกแบบภายนอกตัวอาคารเลียนแบบคาสิโนในลาสเวกัส และมาเก๊า โดยใช้ชื่อ Venetian Rhapsody (งานเลี้ยงเต้นรำหรูหราของเวนิส) กับป้ายโฆษณาที่แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งตรงไปตรงมาว่า Pole dance, free video TV, free narcissistic people, free peep show, major credit cards, free orgasm.

 

4500
South Korean Pavilion, courtesy of photo : Davide Levene for the Guardian

Participated countries-36.jpg

Participated countries-37.jpg
The thinker is a satirical work Choi’s reinterpretation of Rodin’s sculpture made from toilet paper and Pepto-Bismol.

 

British Pavilion

งานประติมากรรมของ Phyllida Barlow ถูกจัดวางไว้ทั่วทั้ง Pavilion ทั้งข้างนอกและภายในตัวอาคาร บางชิ้นติดตั้งสูงถึงหลังคา Barlow ได้สร้างสรรค์งานประติมากรรม Abstract โดยใช้ชื่อเรียกงานว่า Folly ให้ผู้เข้าชมสนุกไปกับการสำรวจและสร้างสรรค์ไอเดียความเข้าใจต่างๆด้วยตัวเอง จากสิ่งของที่พบได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่นไม้ คอนกรีต ผ้า ถุงกระสอบ ฟองน้ำ และใช้สีสันที่จัดจ้านสร้างความสนุกสนานในงาน จากวัสดุเบาๆ สร้างเป็นรูปร่าง และทับภายนอกด้วยคอนกรีตโดยรอบ ถ้ามองไปใกล้ๆ ถึงจะเห็นวัสดุภายใน แต่ถ้ามองภาพรวมแล้วก็ทำให้ตกใจถึงความยิ่งใหญ่ หนักแน่นของงาน แต่ภายในจริงๆใช้วัสดุเบา

Participated countries-44.jpg

pbgeninfofolly1
Installation view, folly, Phyllida Barlow, British Pavilion, Venice, 2017. Photo: Ruth Clark © British Council.

Participated countries-41.jpgParticipated countries-43.jpg

 

 

German Pavilion

ในปีนี้ German pavilion ได้รับรางวัล Golden Lion สำหรับ the best exhibition pavilion ภายใต้ชื่องาน Faust จากศิลปินชาวเยอรมัน Anne Imhof

ภายใน pavilion ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นโรงละครรูปแบบใหม่ ติดตั้งด้วยผนัง พื้น และเพดานกระจกโดยรอบ ตัวพื้นถูกยกสูงขึ้นมาประมาณหนึ่งเมตร จากระดับพื้นปกติ ทำให้ผู้ชมถูกปรับมุมมองให้สูงขึ้น ข้างล่างพื้นกระจกที่ถูกยกสูงขึ้น ได้ถูกจัดให้มีการแสดง Performance ขึ้นทุกวัน เปลี่ยนมุมมองการดูการแสดง นักแสดงและผู้ชมถูกกั้นออกจากกันด้วยพื้น และผนังกระจก ภายใต้พื้นที่ว่างเดียวกัน

ภายใต้ชื่องาน Faust ที่เป็นชื่อของบทละครของชาวเยอรมัน Johann Wolfgang von Goethe ถูกนำมาแสดงเป็น Performance ในpavilion ซึ่งถือว่าเป็นวรรณกรรมที่ได้รับความนิยม และมีชื่อเสียงมากของเยอรมัน

Participated countries-39.jpg
The transparent glass allows for the dissecting gaze of the audience to be directed at the performer (and vice versa)
4500-2
Performance “Faust”, action, from slaps to tussles top singing, takes place above and below the glass floor. courtesy of photo : Davide Levene for the Guardian

 

Israel Pavilion

งานนิทรรศการโดยศิลปิน Gal Weinstein เปลี่ยน Pavilion ให้เป็นสภาพแวดล้อม และบรรยากาศความโรแมนติกของ Israeli ในตำนาน ออกมาเป็นจิตรกรรมบนผนัง และพื้น เป็นความทรงจำที่ถูกหยุดเอาไว้  ภายใต้ชื่องาน Sun Stand Still ที่มาจากคัมภีร์ของ Joshua Bin-nun ผู้นำของอิสลาเอลยุคโบราณที่สั่งให้พระอาทิตย์หยุดเวลา เพื่อที่จะได้นำทัพชนะก่อนจะถึงรุ่งเช้า

ในส่วนกลาง pavilion มีชื่อว่า Moon over abalone valley ถูกเปลี่ยนกลายเป็นบรรยากาศของพื้นที่ที่ถูกทิ้งร้าง อาคารที่รกร้าง เน่าเปลื่อย และผุกร่อนมาอย่างยาวนาน

บนชั้นลอย ถูกจัดให้คล้ายแปลงเกษตรรูปทรงประหลาด จากกากกาแฟ ถ้าหากขึ้นไป จะเหมือนได้มุมมอง Bird eye view ที่เห็นภาพพื้นที่ทางการเกษตรที่ถูกละเลย และชั้นบนของ Pavilion ศิลปินได้แสดงการหยุดเวลาผ่านประติมากรรมที่ทำด้วย Acrilan fiber เป็นการยิงขีปนาวุธ เชื่อมกับชั้นกลาง ทำให้มองเห็นเป็นขีปนาวุธที่ถูกยิงเหนือท้องฟ้าแปลงเกษตร

เมื่อเรื่องราวถูกนำมารวมกัน เกิดเป็นเรื่องเล่าที่เสนอวิสัยทัศน์ช่วงหลังของยุค Apocalypse ที่เผยให้เห็นความเย่อหยิ่งในอารยธรรมของมนุษย์

Participated countries-46.jpg
Jesreel valley in the dark, sun stan still by Gal Weinstein, Israel’s Pavilion
Participated countries-48.jpg
Jesreel valley in the dark made by polyurethane, coffee and sugar
06_Sun_Stand_Still_photo-by-Claudio-Franzini
‘El al’ the clouds of missile launches.
Participated countries-49.jpg
‘El al’, acrilan, styrofoam, graphite, felt and steel wool, Israel’s Pavilion

Participated countries-51.jpg

U.S. Pavilion

ศิลปินผิวสีชาวอเมริกัน Mark Bradford จาก Los Angeles ด้วยชื่องาน ‘Tomorrow Is Another Day’ เป็นการเล่าเรื่องถึงความรุนแรง โหดร้ายของสังคมที่โหยหาเสรีภาพ โดยเขาเป็นตัวแทน ใช้งานศิลปะสะท้อนสังคมที่เลือกปฎิบัติต่อคนผิวสี การแบ่งแยกเชื้อชาติ กลุ่มคนรักร่วมเพศ หรือคนด้อยโอกาส ที่ไม่ได้รับการยอมรับ
ในส่วน Hilight ของงานในห้องรูปไข่ ถูกลอกเนื้อผนังเผยให้เห็นผนังข้างใน เหนือผนังขึ้นไปถึงเพดาน และส่วนของ skylightถูกปิดด้วยเชือกฟอกสีดำ และทอง เปลี่ยนความรู้สึกของห้องให้เหมือนเป็นห้องร้างที่กำลังจะพังลงมา ส่วนของเส้นเชือกที่พันกันเป็นก้อนอัปลักษณ์ขนาดใหญ่ สื่อถึงเงื่อนทหารเรือในสมัย the Middle Passage สมัยแห่งการค้าทาส แสดงถึงปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ยังไม่เรียบร้อย ไม่เสร็จดี ก็ยังไม่ควรที่จะไปสร้างอะไรใหม่ๆ โดยศิลปินได้กล่าวว่า “It’s too soon to start talking about rebuilding, because the ground is still moving,How can you rebuild when the earthquake is still going on?” Bradford said.
Participated countries-53
Mark Bradford’s Oracle
Participated countries-55.jpg
Mark Bradford’s installation that sprawl across the US Pavilion

 

Brazilian Pavilion

“Chão de caça” หรือ Hunting Ground โดยศิลปินชาวบราซิล Cinthia Marcelle เปลี่ยนพื้นตัวอาคารให้เป็นตะแกรงเหล็ก มีเม็ดกรวดถูกอัดแทรกตามร่องตะแกรง ให้ความรู้สึกเหมือนพื้นที่พบเจอในที่สาธารณะ ตามโรงงานอุตสาหกรรม สถานีรถไฟใต้ดิน หรือแม้กระทั่งช่องระบายอากาศชั้นใต้ดินที่พบเห็นตามท้องถนนทั่วไป

 

Participated countries-63.jpg

FG_G_Brasile_9652
Courtesy photo by Francesco Galli.

 

Chile Pavilion
ศิลปิน Bernardo Oyarzún ได้นำเสนอผลงานเกี่ยวกับชนพื้นเมืองดั้งเดิมโบราณMapuche ที่อยู่ในชิลี และบางส่วนของอาร์เจนติน่าในชื่องานว่า ‘Werken ‘
นิทรรศการได้โชว์หน้ากากของชาว Mapuche กว่า 1,500 ชิ้น ที่ใช้สำหรับงานพิธีกรรม ตั้งอยู่กลางโถงห้อง โดยศิลปินต้องการที่จะสื่อรวมกันเกี่ยวกับประเด็นมนุษยวิทยา, สังคม และประวัติศาสตร์ เพื่อนำเสนอความขัดแย้งในสังคมชีลีที่มีมายาวนานเกี่ยวกับชาว Mapuche กำลังเป็นประเด็นที่ถูกกล่าวถึงกันมากเกี่ยวกับการถูกละเมิดสิทธิ์ของชาว Mapuche ที่พวกเขาถูกขับไล่ และยึดพื้นที่อาศัยดั้งเดิมก่อนที่จะเกิดเป็นประเทศชิลี ถูกกล่าวหาว่าเป็น ผู้ก่อการร้าย เพียงเพราะต้องการจะอาศัยอยู่ในดินแดนเดิมของตนเอง
Werken เป็นภาษาพูดในกลุ่มชุมชน ใช้เรียก ผู้ส่งสาร ซึ่งศิลปินชาว Mapuche นี้ก็เปรียบเสมือนผู้ส่งสารมาในยุคศตวรรษที่ 21 เพื่อบอกกล่าวถึงในมุมมองจากชาว Mapuche สู้นานาชาติ ถึงดินแดนดั้งเดิม และอิสรภาพที่พวกเขาครอบครองมาก่อน
Arsenale-58.jpg
Werken by Bernardo Oyazun, over 1,000 Mapuche Kollong traditional masks used in Chilean ceremonies.

 

Argentina Pavilion

ศิลปินชาวอาร์เจนตินา Claudia Fontes นำเสนอผลงานในชื่อ The Horse Problem เป็นฉากม้า หญิงสาว และเด็กชาย ซึ่งต่างก็กำลังแสดงท่าทาง และอารมณ์ที่ผิดปกติ แต่เหมือนกาลเวลาได้หยุดให้สิ่งต่างๆถูกหยุดเอาไว้ ณ ช่วงเวลานั้น เผยให้เห็นท่าทางที่ค้างอยู่ แม้กระทั้งก้อนหิน ก็ถูกหยุดให้ค้างไว้กลางอากาศ การสร้างแบบจำลองด้วยม้า ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของประเทศ จนเกิดเป็นฉากอันอลังการ
การเชื่อมโยงในส่วนผลงานและสถานที่ ย้อนกลับไปในยุคสมัยที่มีการก่อสร้างอาคาร Pavilion Argentina นี้ ม้า เป็นเหมือนสิ่งที่อยู่เบื้องหลังในการขนส่ง เคลื่อนย้ายวัสดุ และอุปกรณ์ต่างๆ ในการสร้างอาคารในสมัยนั้น
นอกจากนี้ม้ายังเป็นตัวเอกที่แสดงถึงความมั่งคั่ง นายทุน และเป็นยานพาหนะสำคัญช่วงยุคสมัยล่าอาณานิคม
Arsenale-78
The Horse Problem, a frozen-scene of a horse and woman obliged to face a crisis, react in different ways

Arsenale-63.jpgArsenale-64.jpg

 

Italian Pavilion

ภายใต้หัวข้อเรื่อง Il mondo magico หรือ The magic world เป็นชื่อโปรเจคที่รวมเอางานศิลปินชาวอิตาเลียน 3 คน Giorgio Andreotta Calò, Roberto Cuoghi และ Adelita Husni-Bey ซึ่งได้เสนอความเชื่อรูปแบบใหม่ที่เปลี่ยนเอาพลังการจินตนาการ และความสนใจในโลกแห่งมายากล

ชื่อของงานได้ยืมมาจากชื่อหนังสือของ Neapolitan scholar Ernesto de Martino ซึ่งเป็นผู้ที่ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับมนุษยวิทยา หลักการของมายากล และพิธีกรรมทางศาสนา

ในส่วนงานของ Roberto Cuoghi ได้เปลี่ยนพื้นที่ในงานให้กลายเป็นพื้นที่โชว์กระบวกการทำประติมากรรมพระเยซูคริสต์ตั้งแต่เริ่มกระบวนการหล่อวัสดุอินทรีย์ ในแม่พิมพ์ไปจนถึงการตรึงกางเขน โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก the Imitation of Christ หนังสือแห่งการนมัสการ และการดลบันดาลใจสำหรับผู้ที่ปรารถนาจะมีชีวิต “เลียนแบบพระคริสต์”

Arsenale-70
Documentation of Imitation of Christ by Roberto Cuoghi, 2017 Italian Pavilion
Arsenale-71
The artist transforms the basilica-like space of the Arsenale into Factory for churning out devotional figures.
Arsenale-73
Figures of Christ inspired by the Imitation of Christ, by  Roberto Cuoghi.

ในส่วนงานของ Giorgio Andreotta Calò ได้ใช้ชิ้นส่วนของอาคาร และบริบทโดยรอบมาเป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะ ผ่านองค์ประกอบของธรรมชาติ ซึ่งในที่นี้คือ น้ำ สร้างให้สร้างความอลังการ ชวนให้สงสัย และสัมผัสได้ถึงความลึกลับ
โดยพื้นที่ในงานจะถูกแบ่งออกเป็นสองระดับ พื้นที่ถูกทำให้มืด เข้าชมงานผ่านทางส่วนล่างที่เห็นเพียงโครงสร้างยกพื้นระดับในตัวอาคารขนาดใหญ่ เมื่อขึ้นมาถึงระดับพื้นที่ถูกยกขึ้นจะเห็น
เป็นเหมือน สระน้ำขนาดใหญ่สะท้อนเห็นโครงสร้างหลังคาของอาคารกลับหัวลงมาบนพื้นน้ำ

Arsenale-76
A huge expanse of water covers the entire platform under the ceiling turning architecture upside down.

 

 

อ้างอิงข้อมูล

https://www.ruspavilion.com

japan pavilion presents takahiro iwasaki’s solo exhibition at the venice art biennale

https://venicebiennale.britishcouncil.org/2017-exhibition/phyllida-barlow

http://www.deutscher-pavillon.org

https://www.haaretz.com/life/1.789112

http://www.markbradfordvenice2017.org/exhibition/

 

Leave a comment