Imm Cologne 2018 – The international interiors show

งาน Imm Cologne เป็นงานแฟร์ของตกแต่งภายในบ้าน และเฟอร์นิเจอร์แฟร์นานาชาติ และเป็นหนึ่งในงานแฟร์เฟอร์นิเจอร์ดีไซด์อันดับต้นๆของยุโรป งานที่จะแสดงผลงาน และมาอัพเดตดีไซด์ และเทคโนโลยีใหม่ๆเกี่ยวกับ interior design, architecture, lighting และ furniture ในปีนี้ได้โฟกัสไปที่เรื่องของ ‘light’ เพราะ ‘แสง’ เป็นสิ่งสำคัญที่สร้างบรรยากาศให้กับบ้าน

นอกจากจะเดินดูงานแล้ว รอบนี้ได้ไปนั่งฟังการบรรยายจาก Susanne Bradherm เกี่ยวกับเรื่องสำคัญในออกแบบงาน Interior ได้ยกตัวอย่าง และพูดถึงวิธีในการทำงานของ Interior designer ที่จะต้องทำงานเป็นทีมร่วมกับทั้งลูกค้า สถาปนิก ช่างไฟ ผู้เชี่ยวชาญมีเดีย เทคโนโลยี และอื่นๆ และพูดถึงตัวอย่างงาน และการใช้ออกแบบพื้นที่เพื่อสนองชีวิตคนยุคใหม่ กับการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ และวัสดุที่ผลิตจากธรรมชาติ เพื่อมาใช้ในงานตกแต่งภายใน

Susanne

บรรยายอีกอันที่ได้ฟัง ในหัวข้อ “Interior & Ambience: Colour for Body, Mind and Soul” โดย Prof. Axel Venn ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสี ได้เล่าความสำคัญของสีว่าเป็นเหมือนสื่อกลางในการสื่อสารกัน ถึงแม้ว่าเราจะพูดกันคนละภาษา แต่สีสามารถถ่ายทอดความรู้สึก และการรับรู้ร่วมกันได้

“Colour is a global language and globalization taste”  – Prof. Axel Venn

นอกจากนี้ยังได้พูดถึงว่า เราจะสามารถรู้จักกันมากขึ้น จากการดูบ้านของเขาว่าเป็นอย่างไร สีเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างบรรยากาศ และ sense of living ในพื้นที่ และได้ยกตัวอย่างสีที่แสดงถึงความรู้สึก และสไตล์ต่างๆ เข่น minimal, functional, architectural, pure, autentic และ futuristic

Prof Axel

ส่วนหนึ่งของงานถูกจัดให้เป็นพื้นที่แสดงผลงานของ Young designer ที่ชนะการแข่งขันเข้าร่วมออกแบบผลิตภัณฑ์ระดับนานาชาติ จากดีไซด์เนอร์รุ่นใหม่ทั่วโลก ชื่อว่า Pure Talents Contest

DSC_0737DSC_0739ImmCologne-1

DSC_0840
Temi by Hiroyuki Morita from Pure talents, bringing traditional Japanese craft skills into a contemporary context.
DSC_0752
Light Labs installation for featured Edition by Isamu Noguchi for Vitra.

DSC_0777ImmCologne-7ImmCologne-6

ImmCologne-9
Light Labs installation for featured edition by Chiaramonte/Marin for EMU

ImmCologne-13ImmCologne-14ImmCologne-8ImmCologne-3ImmCologne-4

เป็นงานที่สเกลใหญ่มาก แต่เดินจริงๆแล้ว คิดว่าวันเดียวก็น่าจะพอสำหรับมุมมองของคนสนใจอัพเดตงานดีไซด์ใหม่ๆ รู้สึกว่างานนี้น่าสนใจในส่วนที่เรียกว่า Pure ส่วนอื่นๆ จะออกไปในแนวโรงงานการผลิตมาออกบูธ ดีไซด์จึงไม่ได้หวือหวา เหมาะกับคนมาติดต่อทำธุรกิจ เสียดายที่ตัว conference สำหรับจัดเวที talk ค่อนข้างเล็ก และอยู่ในมุม ทำให้คนน่าจะสนใจมาฟังกันน้อย

Leave a comment